UFA Slot

มีโอกาสไหมที่จะมีทีมไหนขึ้นมาเป็นมหาอำนาจ

“สโมสรในญี่ปุ่นในระดับเจลีกจะมีงบประมาณอยู่ที่ 30-50 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี

เงินที่พวกเขาหาได้ส่วนใหญ่มาจากการขายตั๋วเข้าชมและเหล่าสปอนเซอร์ของทีม ซึ่งส่วนมากจะเป็นผู้สนับสนุนระดับท้องถิ่น เพื่อเปรียบเทียบให้เห็นภาพรายได้แต่ละทีมชัดคือ พวกเขามีงบประมาณระดับสูสีกับทีมในบุนเดสลีกา 2 เยอรมัน” ส่วนรายได้จากการขายนักเตะนั้น สโมสรในเจลีกมีรายได้ในส่วนนี้ค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับสโมสรอื่น ๆ ในโลก เนื่องจากพวกเขามักจะส่งออกนักเตะหรือขายนักเตะในราคาที่ไม่แพงจนเกินไป นั่นจึงทำให้เราได้เห็นนักฟุตบอลฝีเท้าดีในเจลีกไปค้าแข้งกับทีมในยุโรปอยู่บ่อยครั้ง

“เจลีกมีกฎควบคุมการเงินของตัวเอง ซึ่งอาจจะเปรียบเทียบได้กับกฎ FFP ของยูฟ่า ดังนั้นทุกสโมสรจะไม่สามารถจ่ายเงินเกินรายได้ที่ได้รับ วิธีที่สโมสรจะหาเงินมาใช้พัฒนาทีมได้มากขึ้นสังเกตได้ง่าย ๆ เพราะหลาย ๆ สโมสรมักจะมีแนวคิดขยายสนามเหย้าเพื่อเพิ่มรายได้ของพวกเขานั่นเอง” Pedro Iriondo บรรณาธิการของเว็บไซต์ฟุตบอล futbolfinanzas.com ที่ทำงานร่วมกับ ของญี่ปุ่น เล่าถึงสิ่งที่เขารู้หลังติดตามลีกญี่ปุ่นมาตั้งแต่ยุค 90s เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความเข้มข้นและการคาดเดายากของลีกอย่างแน่นอน ประการเเรกคือทีมในเจลีกมีนโยบายการสร้างทีมที่เหมือนกัน มีที่มาของรายได้คล้าย ๆ กัน และปลายทางของพวกเขาในเวลานี้ คือการส่งออกนักเตะท้องถิ่นไปเล่นในยุโรป ในราคาที่สมเหตุสมผล ในช่วงเวลาที่นักเตะคนนั้น ๆ พร้อมจะออกไปเจอกับระดับของเกมที่สูงยิ่งกว่าที่เจลีกเป็น สโมสรจะได้เงินจากการขายนักเตะให้กับสโมสรในยุโรป ทำให้ทีมสามารถเก็บเงินทุนก้อนนั้นไว้ใช้เสริมทัพต่อไปได้ในตลาดครั้งต่อ ๆ ไป ขณะที่เรื่องนี้ก็จะส่งผลถึงทีมชาติด้วย

UFA Slot

เพราะนักเตะหลายคนได้ออกไปพัฒนาตัวเองในต่างแดนตั้งแต่อายุยังน้อย การขายสตาร์

ถือเป็นหนึ่งในประเด็นที่ฟุตบอลญี่ปุ่นเกิดความสูสีในการแข่งขัน เพราะคุณภาพของทีมจะตกลงไปทันทีเมื่อนักเตะคนเก่ง ๆ ย้ายออก สิ่งที่พอจะทำให้การสมองไหลเพื่อส่วนรวมนี้ทุเลาลงได้ คือการสร้างทีมโดยการเน้นที่ระบบมากกว่าตัวบุคคล ซึ่งหากใครที่ได้ติดตามฟุตบอลญี่ปุ่นในช่วง 5-6 ปีหลังสุด ก็น่าจะเห็นภาพชัดว่าฟุตบอล เจลีก นั้นเน้นกันที่ความฟิต การเพรสซิ่งที่วิ่งเข้าหาคู่แข่งตั้งแต่แดนบน (ฝั่งของคู่ต่อสู้) และเน้นการเข้าทำแบบเท้าสู่เท้า

มากกว่าการฝากความหวังไว้ที่นักเตะคนใดคนหนึ่งให้ใช้ความสามารถส่วนตัวทะลุแนวรับคู่แข่ง จริงอยู่ที่ณเวลานี้สโมสรคาวาซากิ ฟรอนตาเล่จะเป็นสโมสรที่กวาดแชมป์ได้ถึง3สมัยจากการลงเล่น 4 ปีหลังสุด แต่สิ่งที่เราเห็นได้คือในตารางคะแนนตลอด 10 ปีให้หลัง มีถึง 13 สโมสรที่เคยก้าวขึ้นมาติดในอันดับท็อป3ของลีก(กัมบะ โอซากา,อูราวะ เรดส์, คาชิมาแอนท์เลอร์ส,คาวาซากิฟรอนตาเล่,นาโกยาแกรมปัส, เซเรโซโอซากา, คาชิวรย์โซล,ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิมา, เวกัลตะ เซนได, โยโกฮามาเอฟมารินอสและเอฟซี โตเกียว)ยังไม่จบแค่นั้นเหล่าทีมในเจลีกที่เคยก้าวมาติดท็อป 3 ใน 10 ปีหลังสุด ยังเคยเป็นทีมที่ตกชั้นมาแล้วเช่นเซเรโซโอซากา, เวกัลตะเซนไดหรือแม้กระทั่งคาวาซากิฟรอนตาเล่ยอดทีมแห่งยุคก็เคยตกชั้นมาเเล้วในช่วงยุค 2000s นี่คือหลักฐานของความเข้มข้นของลีกที่คาดเดาอันดับในตารางและผลการแข่งขันได้ยากในทุกๆปีหากเทียบในช่วงเวลาเดียวกัน เจลีกมีความหลากหลายของทีมท็อป 3 ของลีก มากกว่าลีกยุโรปอื่นๆเกือบ 2 เท่า

เพราะพรีเมียร์ลีกอังกฤษก็มีเพียงแค่ 7 ทีม, ลาลีกาสเปนมี 5 ทีม,เซเรียอา6ทีมขณะที่บุนเดสลีกาเยอรมันนั้นมากกว่าลีกอื่น ๆด้วยจำนวน 8 ทีม มีโอกาสไหมที่จะมีทีมไหนขึ้นมาเป็นมหาอำนาจเยอรมันมีบาเยิร์น มิวนิค,อิตาลีมียูเวนตุส,ฝรั่งเศสมีเปแอสเช และ สเปน มีทีมอย่างเรอัลมาดริดและบาร์เซโลน่านี่คือรายชื่อทีมที่เคยสร้างช่วงเวลายิ่งใหญ่และเป็นมหาอำนาจในลีกของตัวเองและสามารถผูกขาดเเชมป์ได้หลายสมัยติดต่อกัน และต่อให้พลาดอีกไม่กี่ปีพวกเขาก็ทุ่มเงิน

ติดตามบทความข่าวสารอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ kodintarvike.com

Releated